หลักการทำงานและการแสดงผลของภาพกราฟฟิก
คอมพิวเตอร์กราฟฟิก คือ การสร้าง
การตกแต่งแก้ไข หรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดการ
ยกตัวอย่างเช่น การทำ Image Retouching ภาพคนแก่ให้มีวัยที่เด็กขึ้น
การสร้างภาพตามจินตนาการและการใช้ภาพกราฟิกในการนำเสนอข้อมูลต่างๆเพื่อให้สามารถสื่อความหมายได้ตรงตามที่ผู้สื่อสารต้องการและน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยกราฟ
แผนภูมิ แผนภาพ เป็นต้น
กราฟิกแบบ 2 มิติ (2 Dimension : 2D) เป็นภาพที่คุ้นเคยและพบเห็นโดยทั่วไป เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด ภาพลายเส้น
สัญลักษณ์กราฟ รวมถึงการ์ตูนต่างๆ ในโทรทัศน์
ดังนั้น กราฟิกแบบ 2 มิติ
คือศิลปะแขนงหนึ่งซึ่งใช้สื่อความหมายด้วยเส้น สัญลักษณ์ รูปวาด ภาพถ่าย กราฟ
แผนภูมิการ์ตูน ฯลฯ
เพื่อให้สามารถสื่อความหมายข้อมูลได้ถูกต้องตรงตามที่ผู้สื่อสารต้องการโดยมีลักษณะเป็น
2 มิติ คือ สามารถมองเห็นตามแนวแกน X(ความกว้าง)
กับ แกน Y(ความยาว)
ภาพที่เกิดบนจอคอมพิวเตอร์
เกิดจากการทำงานของโหมดสี RGB
ซึ่งประกอบด้วยสีแดง (Red) สีเขียว (Green)
และสีน้ำเงิน (Blue) โดยใช้หลักการยิงประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่งแสงของสีทั้ง
3 สีมาผสมกันทำให้เกิดเป็นจุดสีสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เรียกว่า
พิกเซล (Pixel) โดยพิกเซลจะมีหลากหลายสี
เมื่อนำมาวางต่อเป็นรูปภาพซึ่งภาพที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มี 2 ประเภท คือ แบบ Raster และแบบ Vector
หลักการของกราฟิกแบบ Raster
หลักการของกราฟิกแบบ Raster
หรือแบบ Bitmap เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวกันของจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ
หลากหลายสีซึ่งเรียกจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ว่าพิกเซลในการสร้างภาพกราฟิกจะต้องกำหนดจำนวนของพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้างถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลน้อยเมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็ก
ๆหรือถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลมากก็จะทำให้แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่
ดังนั้นการกำหนดพิกเซลควรกำหนดให้เหมาะสมกับงานที่สร้าง
คือ
•
การใช้งานทั่ว ๆ ไป กำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 100-150 ppi
(Pixel/inch) หรือจำนวนพิกเซลต่อ 1 ตารางนิ้ว
• งานที่ต้องการความละเอียดน้อยและแฟ้มภาพมีขนาดเล็ก เช่นภาพสำหรับใช้กับเว็บไซต์จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 72 ppi
• งานพิมพ์ เช่นนิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 300-350
• งานที่ต้องการความละเอียดน้อยและแฟ้มภาพมีขนาดเล็ก เช่นภาพสำหรับใช้กับเว็บไซต์จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 72 ppi
• งานพิมพ์ เช่นนิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 300-350
ข้อดีของภาพกราฟิกแบบ
Raster
คือ สามารถแก้ไขปรับแต่งสีตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงาม
โปรแกรมที่นิยมใช้ คือ Paint, Adobe Photoshop
หลักการของกราฟิกแบบ Vector
เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์
หรือการคำนวณภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน แยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง
เส้นโค้งรูปทรง เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster ภาพกราฟิกแบบ
Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตย์ตกแต่งภายใน และการออกแบบต่าง
ๆ เช่นการออกแบบอาคาร การออกแบบรถยนต์ การสร้างโลโก การสร้างการ์ตูน เป็นต้นโปรกีรรมที่นิยม
คือ โปรแกรม Illustrator , CorelDraw , AutoCAD , 3Ds max
ข้อดีของภาพกราฟิกแบบ
Vector
คือ เมื่อทำการขยายภาพที่วาดแล้วภาพจะยังคงความละเอียดเสมอ
Credit: http://por2228.exteen.com/20111026/entry-6
Credit: http://www.learners.in.th/blogs/posts/210116
Credit: http://navigatorgraphic2d.blogspot.com/2011/11/rgb-3-pixel-picture-element-2-raster.html#!/2011/11/rgb-3-pixel-picture-element-2-raster.html
Credit: http://www.learners.in.th/blogs/posts/210116
Credit: http://navigatorgraphic2d.blogspot.com/2011/11/rgb-3-pixel-picture-element-2-raster.html#!/2011/11/rgb-3-pixel-picture-element-2-raster.html
สรุปความรู้จากบทความ
- การสร้าง การตกแต่งแก้ไข หรือการจัดการเกี่ยวกับรูปภาพโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดการ
ยกตัวอย่างเช่น การทำ Image Retouching ภาพคนแก่ให้มีวัยที่เด็กขึ้น
การสร้างภาพตามจินตนาการหลักการสร้างกราฟิกก็จะมีอยู่ด้วยกัน2แบบ 1.หลักการกราฟิกแบบRaster 2.หลักการกราฟิกแบบ Vector
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น